โลงจำนำ Pawn shop

คู่สามีภรรยา.. “หนึ่ง” (กฤษดา สุโกศล แคลป์) มีอาชีพเป็นนักแต่งเพลง “ดาว” (ศุภักษร ไชยมงคล) ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ใช้เงินเก็บที่มีอยู่เพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ และลงทุนเปิดผับเล็กๆ แต่ธุรกิจของเขาก็ไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง วันหนึ่ง… หนึ่งขับรถชนลูกเพื่อนบ้านที่สนิทสนมกันอย่างดี จนเด็กน้อยอาการโคม่า และนอนเป็นเจ้าหญิงนินทาไม่รู้ตัว ทั้งสองสามีภรรยาต้องร่วมกันชดใช้ในสิ่งที่เกิดขึ้น หนึ่งจึงตัดสินใจนำของเก่าที่มีอยู่ทั้งหมด ออกเดินทางไป ณ โรงจำนำแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึง… มูลค่าสิ่งของที่เขานำมาไม่เพียงพอกับจำนวนเงินที่เขาต้องการ “หลงจู๊” เจ้าของโรงจำนำ (ชาลี เมืองไทย) ซึ่งเป็นคนที่มีความเชื่อเรื่องภูติผีวิญญาณ โดยมีการเซ่นไหว้ผีอยู่เป็นประจำ ได้เสนออีกหนึ่งทางเลือกให้กับหนึ่ง คือ ให้จำนำตัวเองกับผี ในช่วงวิกฤตของชีวิต… เขาทั้งคู่ไม่มีทางให้เลือกมากนัก หนึ่งจึงตัดสินใจจำนำตัวเองกับผี เพื่อแลกกับเงิน 1 ล้านบาท ขณะที่หญิงสาวอย่าง “แมว” (ณัชชา สุผลากร) กลับเป็นผู้ที่เข้ามายังโรงจำนำแห่งนี้ด้วยอาการ “อยากลองดี” เธอบอกกับหลงจู๊ว่า “แมวอยากรู้ แมวอยากลอง” เพราะเธอทราบมาจากป้าของเธอว่าเมื่อ 4 ปีก่อน ป้าต้องสูญเสียสามีจากการมาจำนำตัวเองกับผีที่นี่ ก่อนจะหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ป้าของเธอพยายามห้ามปรามด้วยความเป็นห่วง หรือเป็นเพราะมีความลับบางอย่างที่ป้าของเธอไม่กล้าพูด ความเดือดร้อน ขัดสน หมดสิ้นหนทาง … เงิน 1 ล้านบาทรอพร้อมอยู่ตรงหน้า … หลากชีวิต หลายชะตากรรม จึงพร้อมเข้ามาเสี่ยงจำนำตัวเองกับ “ผี” โดยที่พวกเค้าไม่อาจรู้เลยว่า จะได้พบเจอกับสิ่งใดกันแน่ ณ โรงจำนำแห่งนี้… ผมเอาเรื่องจริงจากชีวิตของผมเองมาดัดแปลง นั่นคือ การเข้าโรงจำนำอยู่เป็นประจำตั้งแต่เริ่มหา ความฝันของตัวเอง คนเราเดือดร้อนเรื่องเงินกันทั้งนั้น แล้วแต่เหตุและผลต่างกันไป ผมเคยเข้าโรงจำนำในตอนที่เดือดร้อนมากๆ และคิดไปเองว่าของที่นำไปจำนำจะได้เงินเยอะตามที่เราคิดไว้ ท้ายที่สุดมันไม่เป็นอย่างที่หวัง ผมนำจุดนี้มาคิดเสมอ ว่าทำไมไม่มีโรงจำนำรับของเก่าสะสมบ้าง เพราะผมชอบของเก่าและพอมีเก็บสะสมไว้บ้าง ถึงคราวมีเงินเราซื้อมันมาเก็บไว้ชื่นชม แต่ยามเดือดร้อนมันไม่อยากขาย แต่อยากจำนำ มันไม่มีที่ ที่รับจำนำสิ่งนี้ มีสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมอยากทำหนังชื่อเรื่อง “โรงจำนำ” เพราะอยากเล่นกับอารมณ์ความเดือดร้อนของคน ถึงที่สุดแห่งโปรเจคความฝันของผม ทำให้ผมรู้จักกับคุณสมชาย คุณระพีภัทร์ แห่งโกลเด้นเอ เอนเตอร์เทนเม้นท์ นำพาผมมาสนิทสนมกับคุณสุพพัต (โปรดิวเซอร์) และก่อเกิดภาพยนตร์ที่ผมอยากทำ จวบถึงวันนี้และทุกความคิดได้เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น “โลงจำนำ” เพื่อความเหมาะสมกับเนื้อเรื่องที่สุด เริ่มต้นชีวิตจากผู้ช่วยช่างภาพ ไต่เต้าจนมาเป็นผู้กำกับภาพอิสระ กับภาพยนตร์เรื่องแรก “ไอ้ฟัก” และตามมาด้วย “ตายโหง” หลังจากนั้นยังคงรับงานถ่ายภาพทั้งโฆษณาและงานอื่นๆ หลากหลาย จนได้พบกับผู้กำกับฯ อินดี้ชื่อ ภาม รังสี ได้ชักชวนมาถ่ายเรื่อง “9 มหัศจรรย์องค์ราชันพลังแผ่นดิน” และปีต่อมากับ “เสียงเท่าฟ้าหน้าเท่ากลอง” ปี 2555 เรื่อง “เมนูของพ่อ” และปัจจุบันปี 2556 เรื่อง “โลงจำนำ” และ “ร่าง” “ผมทำงานกับภาม มานานจนรู้ใจของเขาว่าอยากได้ภาพในหนังแบบไหน เรามีทะเลาะกันบ่อยแต่ก็หายเร็ว ผมชอบการทำงานของผู้กำกับฯคนนี้ ภามเขากล้าที่จะทำ และเวลากำกับหนังเขาไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไปได้ง่ายๆ ถ้าไม่ดี ผมชอบการถ่ายหนังเป็นชีวิตจิตใจ การวางเฟรมของหนังในเรื่องผมจะจัดการให้ผู้กำกับฯจนพอใจ แต่กระนั้นเราสองคนก็รู้ทางกันด้วยเลยทำได้ค่อนข้างดี สิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการกำกับภาพของผมคือ ทำให้เฟรมที่มีตัวแสดงในนั้นสวยงามพร้อมกับศิลปะ ถึงตอนนี้ผมเลือกได้คงขอทำหนังกับผู้กำกับคนนี้ไปจนกว่าหมดลมหายใจ หรือจนภามเบื่อผม” หนังโลงจำนำ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมรู้สึกว่าผม โลงจำนำ ตัวประกันกล่าวจะแสง เรื่องราวที่น่าสนใจผมเห็นไม่กี่ที่มีลักษณะ เต็มรูปแบบและเป็นคนที่ดีที่สุดคือ ฉากในตอนท้ายเป็นเพียงเล็กๆ น้อยๆ และตบกะโหลกฉันไม่ชอบจิตวิญญาณไม่สนใจใยดีเพียงแค่นี้ ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นต่อมที่ฉันมีพออยู่แล้ว โลงจำนำ จากเรื่องราวของชายคนหนึ่งนอนหลับอยู่ในที่เกิดเหตุจนหญิงสาวที่เสียชีวิต เขาพยายามที่จะเป็นผู้รับผิดชอบในการรักษาทั้งหมดด้วยตัวเองกับผีไปจำนำที่โรงจำนำ ในตอนแรกที่เปิดมันก็ต้องยอมรับว่าบรรยากาศของความหวาดกลัวจะเริ่มต้นถ้าแสงโดมมาอย่างหนักกับ ออกโทนสีเข้มของเรื่องคือการเพิ่มขึ้นสองเท่า ในความดันบรรยากาศได้ทันที ทำให้ส่วนบุคคลของทุกฉากของเรื่องคือแยม ช้าในตอนท้ายแม้ว่าฉันได้ออกมา แต่มันทำให้ hametaewtgag โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงรับจำนำ ไปบางฉากแต่ของผู้คน พวกเขาทำให้เรารู้สึก กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น อยู่ในห้องพักส่วนตัวผมสัญญาว่า โลงจำนำ ผ่านชั้นบรรยากาศและน่ากลัวในทุกประการ ต่อมาในการแสดงเมื่อฉันคาดหวังอย่างน้อย มันออกมาจากเพียงคนเดียวนักแสดง กลับกลายเป็นว่าเกือบทุกคนได้ทำหน้าที่ ตัวเองได้ดี เจ้าของร้าน จำนำในที่เกิดเหตุเขา จะต้องรู้สึกเหมือนฉัน ไม่ได้แม้แต่ฉาก ประหลาดบางอย่าง ที่เราได้ยินเพียงเสียงของเขา โดยเห็นเพียงแผ่นหลัง หรือเงามันน่ากลัวมากฆ้อง กับน้องชายคนเล็กของเขาได้รับ มุมมองที่ดีอาจจะเป็นเพราะป่าซึ่งเป็นที่กำกับการแสดงโดยนักแสดงในรูปแบบ ผู้อำนวยการคิมไวสส์ของฉัน ที่ถกเถียงกันอยู่ในตัวเองก็จะทำให้ฉากดูดียิ่งสมจริงมากขึ้นกับพวกเขา อีกครั้งที่แนบมากับมัน แต่บางส่วนของตัวอักษรในโรงรับจำนำเล่น จนผมรู้สึกว่าเกินไปไม่เป็นธรรมชาติ ในพื้นที่ที่มีข้อเสียมากมายรวมทั้งการแก้ไขวิธีที่ผิด ที่จะเห็นผีน้อยเป็นที่ทารุณ สลับฉากผมรู้สึกว่าอารมณ์ได้มากน้อย ในบทที่ไม่ดี ผมคิดว่ามันเป็นเพราะเรื่อง เนื้อหาหลักของบทที่มันเป็นจริงเพียงเล็กๆ น้อยๆ คือการเพิ่มเงินที่จะชดใช้ภาพยนตร์ที่พระเอกจะต้องพยายามที่จะยืดนำกว่า ตัวละครอื่นๆ โลงจำนำ ไว้ให้ผีกว่าและมากกว่าประมาณ 4 ครั้งเพื่อก้าวไปข้างหน้าไม่ว่าสิ่งที่ไม่มีและไม่มีความหมายใด ๆ มันสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมที่จะดูที่หนี้หรือแม้กระทั่งไม่กี่ของ ตัวเองว่าฉันจะวนเวียนซ้ำๆ เพื่อฝันของฉันและรอจนกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา ความคิดตัวเองเป็นหน้าน่าเบื่อที่จะไปผี โลงจำนำ สุดท้าย อาจจะไม่สำหรับทุกคนเพราะ ผมเองคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คือศิลปะ แอบเช่นกันนุ่มแล้ว ลากลงเพื่อเอามันแต่พวกเขาอาจจะรู้สึกเหมือนอยู่ในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว พวกเขายังรู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คือการตอบสนองต่อความกลัว ฉากโคมไฟเช่นกันกับดารานักแสดงของแต่ละพลังงานดาว โลงจำนำ ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับฉันเป็นผีที่จะนำภาคเอกชนและอีกหนึ่งสิ่งที่เคยสนุก